ประวัติ พูดถึงประวัติก็ต้อง ผู้แต่ง การ์ตูนเรื่องBleach
คุณ ไทตะ คุโบะ
เป็นนักวาดการ์ตูนชาวญี่ปุ่น เกิดเมื่อ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2520
ผลงาน
คุโบะเริ่มวาดการ์ตูนตั้งแต่สมัยอยู่ไฮสคูล โดยเป็นสมาชิกของชมรมการ์ตูนในโรงเรียน และได้เริ่มวาดการ์ตูนเรื่องแรกคือ ซอมบี้พาวเดอร์ และได้ตีพิมพ์ในภายหลัง เริ่มต้นชีวิตทำงาน คุโบะได้วาดการ์ตูนเรื่องเทพมรณะ หรือ บลีช โดยหวังว่าจะได้ตีพิมพ์จากโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ แต่ถูกปฏิเสธจากทางบริษัทเนื่องจากเหตุผลว่า โครงเรื่องมีลักษณะใกล้เคียงกับเรื่องคนเก่งฟ้าประทาน อย่างไรก็ตามในที่สุดผลงานเรื่อง เทพมรณะก็ได้ลงตีพิมพ์ในโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์
คาแร็กเตอร์ของเทพมรณะ
มนุษย์
ในเรื่องเทพมรณะ เหล่ามนุษย์ที่ในเรื่องจะดำเนินในสังคมในประเทศญี่ปุ่น มนุษย์ในที่นี้ก็จะเหมือนกับในโลกของความเป็นจริง โดย ทุกคนจะอาศัยกายหยาบเพื่อการมีชีวิต วิญญาณกับกายหยาบจะเชื่อมต่อกันด้วย "โซ่แห่งผลกรรม" ที่จะติดอยู่ที่ส่วนอกของวิญญาณกับกายหยาบ และถ้ามีมนุษย์คนใดได้รับผลกระทบจากการกระทำของวิญญาณ ก็อาจจะไปกระตุ้นพลังวิญญาณในตัวของเขาจนสามารถมอง เห็นวิญญาณได้ หรืออาจจะมีพลังพิเศษจากพลังวิญญาณได้เช่นกัน :) :)
วิญญาณ
เมื่อมนุษย์ตาย วิญญาณของจะไม่ไปยังโซลโซไซตี้หรือนรกในทันที วิญญาณเหล่านี้เรียกว่า "อัด (Plus)" เป็นวิญญาณของคนส่วนใหญ่ซึ่งปรากฏให้เห็นเป็นร่างมนุษย์ โดยโซ่แห่งผลกรรมที่หน้าอกจะขาดออกจากกายหยาบแล้วซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึง ความตายของคนๆนั้น และตราบใดที่ยังไม่มียมทูตมาชี้นำที่ไปให้ยังที่ๆควรไป พวกเขาก็จะวนเวียนไปเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่เหล่าวิญญาณจะวนเวียนอยู่ในสถานที่ซึ่งตนเองตายหรือคุ้นเคย และวิญญาณเหล่านี้จะมีตัวตนอยู่ในระดับหนึ่งซึ่งในบางครั้งสามารถสัมผัสได้
ฮอลโลว์
ฮอลโลว์ คือวิญญาณที่โซ่กรรมขาดทำให้เกิดการกัดกินจน หน้าอกเป็นรู ในที่สุดก็จะกลายร่างเป็นอสูรกาย ฮอลโลว์ทุกตนจะมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ทุกตัวจะสวมหน้ากากไว้เพื่อปิดบังใบหน้าของตนและหน้ากากจะป้องกันสันดาน ดิบหรือนิสัยเก่าก่อนที่จะเป็นฮอลโลว์ เหล่าฮอลโลว์จะกินวิญญาณธรรมดาและวิญญาณของคนที่มีพลังวิญญาณสูง ซึ่งทำได้แม้แต่การฆ่าคนเพื่อเอาวิญญาณมาดับความหิวกระหาย ไม่ก็ดับความทรมาณของตนเอง โดยเหล่าฮอลโลว์แม้คนธรรมดาจะมองไม่เห็น แต่ก็มีตัวตนสัมผัสได้ ฮอลโลว์ที่มีแรงดันวิญญาณสูงจะถูกเรียกว่า "เมนอส" ซึ่งในหมู่เมนอสเองแล้ว ก็สามารถแบ่งได้อีก 3 ประเภทเช่นกัน คือ
1.กิลเลียน เมนอสที่พวกอิจิโกะเรียกกันว่า "เมนอสกรังเด้" นั้นแท้จริงแล้วคือพวก "กิลเลียน" เป็นเมนอสชั้นต่ำที่สุด ร่างใหญ่ เคลื่อนไหวช้า มีปัญญาราวกับสัตว์ป่าเท่านั้น
2.แอดจูคาส เมนอสที่มีขนาดเล็กกว่ากิลเลียน มักเป็นผู้นำฝูงของกิลเลียน และมีขนาดเล็กกว่า ฉลาดกว่า
3.วาสโทรเด้ เมนอสชั้นสูงสุด มีขนาดเท่ากับมนุษย์ มีจำนวนน้อย รวมทั้งหมดในฮูเอโก้ มุนเด้ มีอยู่ไม่กี่ตนเท่านั้น ว่ากันว่า ความสามารถของวาสโทรเด้นั้นมีมากกว่าหัวหน้าหน่วยของหน่วยของยมทูตเสียอีก และฮิตสึกายะ โทชิโร่เคยพูดไว้ว่าถ้ามีวาสโทรเด้ อยู่กับไอเซ็นตั้งแต่10ตนขึ้นไปโซลโซไซตี้อวสานแน่
ยมทูต
ยมทูตปุ่น Shinigami ; Death's God ?) เป็นผู้ปกครองโซลโซไซตี้ ทำหน้าที่ควบคุมปริมาณวิญญาณที่ถ่ายเทระหว่างโลกมนุษย์กับโซลโซไซตี้ นอกจากนี้ยังมีภารกิจสำคัญอีกสองประการ คือ การทำพิธีส่งอัดไปยังโซลโซไซตี้ และการชำระฮอลว์โล ตัวชินิกามิเองนั้นเป็นวิญญาณ ด้วยเหตุนี้คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็น ได้ยิน หากแต่สัมผัสชินิกามิได้ในบางครั้ง ชินิกามิทุกตนมีร่างเป็นมนุษย์ สวมชุด[[เครื่องแบบเครื่องและมีอาวุธประจำกายเรียกว่า ซัมปาคุโต "ดาบฟันวิญญาณ"(ภาษาอังกฤษเรียก "Soul Slayer / Soul Cutter") สำหรับใช้ต่อสู้กับฮอลโลว์นอกจากนี้ชินิกามิยังสามารถใช้คิโด (มนต์ดำ, Demon Art(หรือ "วิถีมาร") ในการต่อสู้ได้อีกด้วย และสำหรับระดับหัวหน้าแล้วยังมีการปลดปล่อยสดาบฟันวิญญาณ)โดยการเรียกชื่อดาบของตนซึ่งมียมทูตจำนวนไม่มากนักที่สามารถทำได้
ควีนซี่
ควีนซี่(Quincy) คือ ตระกูลนักปราบมารที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก คอยฝึกฝนตัวเองเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถต่อสู้กับฮอลโลว์ได้ และ สูญสิ้นไปกว่า 200 ปีมาแล้วจากการกวาดล้างของยมทูต เนื่องจากเจตนาของควินชี่ในการกำจัดฮอลโลว์ที่ต่างกันกับเหล่ายมทูต เพราะว่า ควินชี่มุ่งที่จะสังหารฮอลโลว์เท่านั้นไม่เหมือนกับยมทูตที่ส่งวิญญาณ ฮอลโลว์ไปสู่โซลโซไซตี้ ควินซี่จะไม่ใช้อาวุธอื่นใดนอกจากธนู
อารันคาร์
อารันคาร์ (Arrancar) คือเหล่าฮอลโล่ว์ที่ถอดหน้ากากและได้รับพลังยมทูต กลายเป็นฮอลโลว์ที่มีทั้งความสามารถของทั้งฮอลโลว์และยมทูต เหล่าอารันคาร์จะมีหน้ากากที่ถอดออกไปส่วนหนึ่งทำให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงใน ระดับหนึ่ง และจะอยู่ในร่างที่เกือบจะเป็นมนุษย์ (แต่จะเป็นร่างมนุษย์แบบสมบูรณ์ถ้าเป็นร่างแปลงของฮอลโลว์ระดับสูง) และยังคงมีรูกลวงตรงกลางอยู่เช่นเดิม เหล่าอารันคาร์จะสวมชุดเสื้อคลุมสีขาว และจะมีดาบฟันวิญญาณเช่นเดียวกับยมทูต การปลดปล่อยดาบของอารันคาร์จะไม่ใช่การเปลี่ยนอาวุธชิ้นหนึ่งเป็นอีกแบบ หนึ่ง แต่ดาบฟันวิญญาณของอารันคาร์ก็คือแก่นแห่งพลังของอารันคาร์ตนนั้น เมื่อปลดปล่อย อารันคาร์จะกลับคืนสู่ร่างที่แท้จริงและมีพลังเพิ่มขึ้นจากเดิมหลายสิบเท่า เรียกว่า Resurrection สำหรับเผ่าอารันคาร์ อ.คุโบ เลือกที่จะให้ชื่อและชื่อของดาบฟันวิญญาณเป็นภาษาสเปน (แม้แต่เพลงประกอบในอะนิเมะก็เลือกใช้ดนตรีในสไตล์สเปนหรือลาตินอเมริกา)
เดิมที อารันคาร์มีจำนวนน้อยแต่เดิม และเป็นร่างที่ไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อได้รับพลังจากโฮเงียวคุของไอเซ็น อารันคาร์จึงพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด จนถึงระดับสมบูรณ์แบบ(แต่จากเนื้อเรื่องปัจจุบัน ยังไม่มีอารันคาร์ที่สมบูรณ์แบบเลยยกเว้น วอนเดอร์ไวซ์ ที่เกิดจากโฮเงียคุที่มีพลังเต็มร้อย)
อารันคาร์ที่ถูกคัดเลือก 10 ตน จะถูกเรียกว่า เอสปาด้า (Espada) และจะมีอำนาจปกครอง อารันคาร์ด้วยกันเอง เอส ปาด้าแต่ละตนจะมีวังอยู่ใน ลาส์ นอเช่ ซึ่งแต่ล่ะวังจะล้อมรอบวังของไอเซ็นเอาไว้ เอสปาด้ามีสิทธิ์เลือกคนสนิทไว้ใช้สอยตามแต่ตัวเองจะพอใจ ซึ่งเรียกอารันคาร์ที่เป็นคนสนิทของเอสปาด้าว่า ฟราเชี่ยน(fracion) แต่ที่จริงแล้วเอสปาด้าจะเรียงจากเบอร์ 0-9 และตนที่เป็นเบอร์ 0 ก็คือยามี่ เอสปาด้าจะมีความสามารถในการใช้เหตุผลของความ"ตาย" ได้เช่น บารากัน แก่ตายจึงสามารถควบคุมเวลาหรือทำให้ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวหมดอายุไขได้ พวกที่ถูกถอดออกจากเอสปาด้าจะกลายเป็น พรีวารอน เอสปาด้า (อดีตเอสปาด้า) จะมีเลขลำดับเป็นเลข 3 หลัก (เทรสซีรัฟ) ที่จะอยู่ในกำแพงด้านนอกของลาส์ นอเช่
เอสปาด้า
เอสปาด้าทั้งหมดมีดังนี้
1. พริเมโร่ เอสปาต้า (Primero Espada)[Coyote Starkk] โคโยเต้ สตาร์ค และ ลิลิเน็ต จินเจอร์แบ็ค เอสปาด้าหมายเลข 1 มักนอนหลับบ่อยๆจึงถูกลิลิเน็ตแกล้ง โดยมีหมายเลขอยู่ที่หลังมือซ้าย ยืนยันโดยbleach ตอนที่ 339 คำปลดปล่อย " จงไล่ต้อน" ลอสโลบอส ( ฝูงหมาป่า )โดน เคียวราคุ ชุนซุย ฆ่าตายแล้ว ยืนยันโดยบลีชตอนที่ 374
2. เซกุนโด้ เอสปาต้า (Segundo Espada) บารากัน ลุยเซนเบิร์น (Barakan) เอสปาด้าหมายเลข 2เป็นชายแก่หน้าบาก และในตอนที่ไอเซ็นบุกโลกมนุษไอเซ็นโดนไฟจากดาบผ่าวิณญาณของหัวหน้าหน่วย 1 ไม่สามารถสั่งการได้ บารากันได้เป็นคนสั่งแทน เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะหยิ่งในตนเอง มีดาบฟันวิญญาณเป็นขวานขนาดใหญ่ ซึ่งหยิบออกมาจากที่นั่ง ปรากฏในตอนที่ 355 และเขาได้ปลดปล่อยดาบออกมาโดยคำปลดปล่อยคือ "จงเสื่อมสลาย" ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ "อาโรน์กันเต้(ราชาหัวกะโหลก)" ยังไม่ตาย หรือ มีรอยขีดข่วนเลย (โดนบังไคของซุยฟงยิง)โดน ซุยฟง กับ ฮัจจิ(1ในไวเซิท)ฆ่าตายแล้ว
3. เทรส เอสปาต้า (Tesaro Espada) เทีย ฮาริเบล (Tia Haribell) เอสปาด้าหมายเลข 3 เป็นผู้หญิงเพียงตนเดียวที่เป็นเอสปาด้า ยืนยันโดย bleach ตอนที่ 339 โดยมีหน้ากากฮอลโลว์อยู่ตั้งแต่ปากจนถึงบริเวณหน้าอก และมีหมายเลข 3 สักไว้ที่หน้าอกข้างขวา มีดาบฟันวิญญาณชื่อ ทิบูรอน คำปลดปล่อยคือ "จงโรมรัน" จะกลายเป็นดาบคล้ายฉลามเงิน โดยดาบจะอยู่ที่มือข้างขวา(แต่ทำไมก็ไม่รู้ว่า หมายเลข 3 ต้องเป็นผู้หญิงเสมอนะ) โดนท่าไม้ตายของฮิซึงายะแล้วยังรอด แต่โดนไอเซ็นฆ่าเองกับมือ ยืนยันโดยบลีชตอนที่ 375
4. ควอโทร เอสปาด้า (Cuator Espada) อุลคิโอร่า ชิฟเฟอร์ (Ulquiorra Schiffer) มีดาบฟันวิญญาณชื่อว่า มูรเซียร์เอลาโก้ คำปลดปล่อยคือ "จงพันธนาการ" และเขามีหมายเลข 4 อยู่ทางด้านหน้าอกข้างซ้าย ได้พ่ายแพ้ให้กับฮอลโลว์ในตัวของคุโรซากิ อิจิโกะ และสิ้นชีวิตเองเนื่องจากอวัยวะภายในบอบช้ำเป็นอย่างมากจนไม่สามารถฟื้นฟู ได้ จนสลายเป็นเถ้าถ่านไปในที่สุด [Ulquiorra เป็นเพียงเอสปราด้าตนเดียวที่สามารถ ปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณได้ถึงขึ้นที่ 2 ยืนยันโดย Bleach 348 ข้าเป็นเอสปาด้าเพียงตนเดียว ที่สามารถปลดปล่อยได้ถึงสองระดับ แม้แต่ท่านไอเซ็น ก็ไม่เคยเห็นข้าแบบนี้]
5. ควินโต้ เอสปาต้า (Quinto Espada) นอยโทร่า จิลก้า (Noitora Jilka)อดีตเอสปาด้าหมายเลข 8 (อ้างอิงจาก เล่ม 33 หน้า 155 ช่องที่ 1 จากทางด้านขวา) มีหมายเลข 5 อยู่ที่ลิ้นของตนเอง เป็นคนที่เคียดแค้นเนเลียน ที่แข็งแกร่งกว่าตน เนื่องจาก เขาไม่ชอบให้มีผู้หญิงอยู่ในสนามรบ และมักจะหาเรื่องให้เนเลียนสู้ได้ทุกครั้งเลย (แต่ไม่รู้ในใจคิดอย่างไรนะ) สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตด้วยฝีมือของ ซาราคิ เค็นปาจิ ที่ใช้วิชา เค็นโด้ ในการจับดาบ 2 มือปลิดชีพ
เวลาจะปลดปล่อยดาบจะใช้ชื่อว่า "จงภาวนา" ซานต้าเทเรซ่า (บทภาวนาตั๊กแตนตำข้าว) โดยร่างกายจะมีแขนเป็น 6 แขน และถืออาวุธข้างละ 1 แขน
6. เซ็คต้า เอสปาด้า (Sextar Espada) กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค (Grimjaw Jackerjack)กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค มีหมายเลข 6 อยู่ที่หลังทางด้านขวา ข้าง ๆ รูโบ๋กลางลำตัว เป็นเอสปาด้าที่ค่อนข้างเที่ยงตรง และ ไม่ชอบหน้าของผู้ที่อ่อนแอ ปะทะกับอิจิโกะมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งปัจจุบันไม่รู้ว่าตายหรือยัง แต่ถือว่าเป็นคนดีในระดับหนึ่ง ที่รักษาแผลของอิจิโกะให้ และช่วย โอริฮิเมะมา สุดท้ายอิจิโกะก็สามารถเอาชนะกริมจอว์ได้
เวลาจะปลดปล่อยดาบจะใช้ชื่อว่า จงเสียดเสียง แพนเทร่า (ราชันย์พยัคฆ์เปล่งเสียง) โดยรูปร่างของตนจะมีร่างกายคล้ายพยัคฆ์แต่จะมีความเร็วและรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
7. เซปติโม่ เอสปาต้า (Semtimo Espada) โซมารี เลอรูซ์ (Zomari Le Roux)โซมารี เลอรูว์ ไม่ปรากฏว่าตัวเลข 7 นั้นอยู่ตรงไหน เป็นคนที่ศรัทธาในตัวไอเซ็นมากที่สุดใน 10 คน ถือเป็นคนที่ฉลาดพอดู ปะทะกับคุจิกิ เบียคุยะ เลยทำให้รู้ว่า ถึงจะควบคุมสิ่งที่ก็ตาม การควบคุมก็มีจำกัด ไม่สามารถควบคุมไปได้ทั่วถึงนั้นเอง สุดท้ายก็ตามด้วย เซ็มบ้งซากุระ คาเงโยชิ ของเบียคุยะ
เวลาจะปลดปล่อยดาบจะใช้ชื่อว่า จงสงบนิ่ง บรูเฮเรีย (นักบวชเนตรคำสาป) โดยร่างกายจะเป็นดวงตา 50 ดวง มีความสามารถในการควบคุมสิ่งที่ดวงตามองนั้นมองเห็น
8. อ็อคตาบา เอสปาด้า (Octava Espada) ซาเอล อพอลโล แกรนท์ (Szayel Aporro Grant)ไม่ปรากฏว่าหมายเลข 8 อยู่ที่ไหน เป็นนักวิทยาศาสตร์คล้ายมายูริ แต่ทว่าเป็นผู้มีไสยศาสตร์ด้วยในการใช้ ตุ๊กตาลงทัณฑ์ ในอดีตเป็นคนที่ช่วยให้นอยโทร่า จัดการเนเลียนได้สำเร็จ เป็นผู้ที่แม้บาดเจ็บเพียงใด แค่กินฮอลโลว์ 1 ตัวก็จะสามารถฟื้นฟูตนเองได้อย่างรวดเร็ว แล้วสุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อคุโรซึจิ มายูริ ด้วย ยาอภิมนุษย์ (ยาทำให้เวลาในร่างกายผ่านไปนาน) และพ่ายแพ้ในที่สุด
เวลาจะปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณจะใช้ชื่อว่า จงสูดแทรก ฟอร์นิคารัส (ราชินีมาร) โดยมี 3 ความสามารถคือ 1. ปล่อยน้ำเมือกออกมา เมื่อสัมผัสกับร่างกายใคร ก็จะสร้างตัวปลอมขึ้นมา 2. การดูดมนุษย์เข้าไป และสร้างตุ๊กตาลงทัณฑ์ขึ้นมาแทน 3. กาเบรียล คือ การแฝงตัวเข้าไปในร่างแม่ และฟักตัวใหม่ และคืนชีพออกมาใหม่ (ซึ่งในครั้งนี้เนมุเป็นผู้เคราะห์ร้ายไปแต่มายูริก็ช่วยเอาไว้ได้)
9. นูเบโน่ เอสปาด้า (Noveno Espada) อาโรนีโร่ อาลูเอรี่ (Aoniro Aruerie)เป็นกิลเลียนตนเดียวในเอสปาด้าหมายเลข 9 อยู่ที่สมองของเขาเอง ในอดีตเป็นฮอลโลว์ที่ชิบะ ไคเอ็น เสี่ยงชีวิตเข้าไปต่อสู้ และได้สิ้นชีพ เพราะคุจิกิ ลูเคีย (อ่านในเล่ม 16) วิญญาณของฮอลโลว์ตัวนั้นจึงมาที่ ฮูเอโกมุนโด้ และได้ใช้ร่างสุดท้ายที่สิง ก็คือชิบะ ไคเอ็น มาใช้ได้ เป็นเอสปาด้าคนเดียวที่เป็นอารันคาร์ที่พัฒนาได้ไม่หยุดยั้ง สุดท้ายก็สิ้นชีวิตโดย คุจิกิ ลูเคีย
เวลาจะปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณจะใช้ชื่อว่า จงกลืนกินให้หมดสิ้น โกลโตเนเรีย (กลืนกินฮอลโลว์) และเวลาใช้ร่างชิบะไคเอ็นจะปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณจะใช้ชื่อว่า น้ำแห่งฟากฟ้าจงคลี่คลาย เนจิบานะ (ดอกเกศานารี)
10. เดซิโม่ เอสปาด้า (Dasimo Espada) ยามี่ เรียลโก้(Yammy Rialgo) เอสปาด้าหมายเลข 10 มีดาบฟันวิญญาณชื่อ Era(ไอย์ร่า)(อสูรกราดเกรี้ยว) คำปลดปล่อยคือ"จงทำลาย" แต่แท้ทีจริงแล้วยามี่เป็นเอสปาด้าหมายเลข 0 ซึ่งเมื่อปลดปลอดดาบด้วยพลังเต็มที่แล้ว เลข 10 จะกลาย เป็นเลข 0 (เลข 1 หลุดออกไป) หรือคือ ซีโร่ เอสปาด้า (Zero Espada)ซึ่งแข็งแกร่งมาก
คราวนี้มาในเรื่องของตัวละครหลักกันบางครับ
คุโรซากิ อิจิโกะ
Kurosaki Ichigo
ตัวละครเอกของเรื่อง นักเรียนมัธยมปลายที่มีความสามารถมองเห็นและสื่อสารกับวิญญาณได้และเป็นคนที่มีพลังวิญญาณมหาศาล(แต่ควบคุมไม่เป็น) ได้รับถ่ายทอดพลังของยมทูต(ชินิกามิ)จากคุจิกิ ลูเคีย จึงต้องทำหน้าที่เป็นยมทูต(ชินิกามิ)แทนจนกว่าลูเคียจะได้พลังของตนกลับคืนมาและได้สู้กับคุจิกิ เบียคุยะจนสูญเสียพลังยมทูตและได้ไปฝึกกับอุรุฮารา 10 วัน จนได้พลังยมทูตกลับคืนมาและได้ดาบฟันวิญญาณใหม่ชื่อซันเงสึ (ผ่าจันทรา) แล้ว ไปช่วยลูเคียและได้ฝึกกับโยรุอิจิจนปลดปล่อยขั้นสวัสดิกะได้และได้ช่วยลูเคียได้สำเร็จ เขาสับสนกับพลังฮอลโลว์ที่อยู่ภายในตัวเอง ทำไมไม่สามารถใช้พลังต่อสู้ได้อย่างเต็มที่และเสียใจที่ไม่สามารถปกป้องคนอื่นๆได้ ภายหลังการต่อสู้กับอารันคาร์แล้วได้ไปฝึกกับเหล่าไวเซิร์ด ทำให้สามารถควบคุมฮอลโลว์ในตัวเองให้สงบลงได้ และยังได้ความสามารถของฮอลโลว์มาอีกด้วย
คุจิกิ ลูเคีย
Kuchiki Rukia
ชิคิกามิ (ยมทูต) จากโซล โซไซตี้ ที่ถูกสถานการณ์บังคับให้ถ่ายทอดพลังของตนให้กับคุโรซากิ อิจิโกะ นับจากนั้นเธอก็ใช้ร่างเทียมที่ อุร่าฮาระ ทำขึ้นและย้ายเข้าเข้าโรงเรียนเดียวกับอิจิโกะเพื่อควบคุมให้เขาทำงานของยมทูต(ชินิกามิ)แทนตน ชอบกระต่ายแชปปี้และชอบใส่เสื้อผ้าไม่รัด ในตอนเด็กนั้น เธอเป็นเพื่อนสนิทกับอาบาราอิ เร็นจิ รองหัวหน้าหน่วย 6 ของโซลโซไซตี้ แต่ไม่นานก็ถูกตระกูลคุจิกิรับเป็นน้องสาวบุญธรรม มีดาบฟันวิญญาณชื่อ โซเดะโนะ ชิรายูกิ (หิมะขาวในแขนเสื้อ) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงร่ายรำ"
ซาโดะ ยาสึโทระ แช้ด
Sado Yasutora
เพื่อนร่วมชั้นและเป็นเพื่อนสนิทของอิจิโกะ มีเชื้อสายอเมริกากลาง มีร่างกายกำยำแข็งแกร่ง(ตัวเหมือนเหล็กก็ว่าได้)แต่ร่างกายของเขามีไว้เพื่อปกป้องคนอื่นเท่านั้น ชอบสวมเสื้อยืดฮาวายและใส่สร้อยคอที่มีจี้เป็นเหรียญเม็กซิกัน โดยแขนขวาของเขานั้นคือแขนที่ใช้เพื่อปกป้อง ซึ่งมีวิญญาณอาบูเอโร่ ซึ่งเป็น คนเลี้ยงดูแช้ดเมื่อตอนเด็ก ๆ นั้นสิงสู่อยู่ ส่วนแขนซ้ายของเขามีพลังดิอาโบล หรือ บราโซ อิสคิเอร์ด้า เดล ดิอาโบล (แขนซ้ายแห่งจอมมาร) เพื่อการโจมตีที่ทำให้เขาโค่นอารันคาร์ได้หลายต่อหลายตัว และเขายังไปที่ โซลโซไซตี้ และฮูเอโก้ มุนโด้ กับอิจิโกะด้วย :eeek:
อิชิดะ อุริว
Ishida Uryu
เพื่อนร่วมห้องของคุโรซากิ อิจิโกะ อยู่ชมรมเย็บปักถักร้อย มีฝีมือขั้นเทพ เขาเป็นควินซี่ซึ่งคนที่สอนวิชาแก่เขาคือปู่ของเขาเองซึ่งได้ถูกฆ่าตายโดยพวกฮอว์โลว์ เขาเป็น1 ในกลุ่มคนที่ไปช่วยคุจิกิ ลูเคียจากการถูกประหาร ซึ่งทำให้เขาสูญเสียพลังของควินซี่ไปจากการต่อสู่กับคุโรสึจิ มายูริ หัวหน้ายมทูตหน่วย 12 พ่อของเขา อิชิดะ ริวเค็นได้ฟื้นฟูพลังของควินซี่ให้ โดยแลกเปลี่ยนกับข้อตกลงบางอย่าง คือ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับยมทูตอีกเป็นครั้งที่ 2 แต่อิชิดะก็แอบไป ฮูเอโก้ มุนโด้ กับอิจิโกะและแช้ด และเมื่อไปถึงก็ได้ธนูใหม่ที่ชื่อ งินเรย์ โคจาคุ (เกาทัณฑ์นกกระจอกภูผาเงิน) ซึ่งยิ่งศรได้ 1,200 ดอก ต่อวินาที
อิโนะอูเอะ โอริฮิเมะ
Inoue Orihime
เป็นเพื่อนร่วมชั้นของอิจิโกะ มีผมสีส้ม เธอแอบชอบอิจิโกะอยู่ เธอมีพี่ชายอยู่ 1 คนแต่ได้เสียชีวิตไปแล้ว พี่ชายของเธอได้กลายเป็นฮอว์โลว์และเข้ามาทำร้ายเธอ แต่เธอก็ได้ถูกช่วยไว้โดยคุโรซากิ อิจิโกะ และคุจิกิ ลูเคีย กิ๊บติดผมที่เป็นของสำคัญของเธอก็ได้มาจากพี่ชายของเธอเอง พลังของเธอคือ 6 บุปผาโล่พิทักษ์ ที่สถิตอยู่ที่กิ๊บติดผมของเธอ โดยมีฮินางิคุ ไบกอน และลิลลี่ (ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "ม่านพลังสามสวรรค์ ชั้นขอปฏิเสธ") ที่สามารถยับยั้งภายนอกโล่ (สร้างกำแพงป้องกัน) ซึบากิ (ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "โล่พิฆาต สวรรค์เดี่ยว ชั้นขอปฏิเสธ") มีความสามารถในการ ยับยั้งสองฟากข้างโล่ (ผ่าศัตรูเป็นสองซีก) ชุนโอ (หัวหน้าหกบุปผาโล่พิทักษ์) และอายาเมะ (ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "ม่านสวรรค์คู่คืนสู่โล่ ชั้นขอปฏิเสธ") มีความสามารถคือ ยับยั้งภายในโล่ หรือก็คือ "ปฏิเสธเหตุการณ์" เธอสามารถปฏิเสธเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ไอเซ็นต้องการพลังของเธอ จึงใช้อุลคิโอร่าไปจับตัวเธอมา ปัจจุบันอยู่ในปราสาทของพวกอารันคาร์ในฮูเอโก้ มุนโด้
อาบาไร เร็นจิ
Abarai Renji
รองหัวหน้าหน่วยที่ 6 แห่ง 13 หน่วยพิทักษ์ในโซลโซไซตี้ แม้ว่าในตอนแรกจะปรากฏตัวในฐานะศัตรูกันก็ตาม แต่ในที่สุดก็เป็นเพื่อนกับพวกอิจิโกะในที่สุด จึงทำให้ตอนหลังมักจะถูกส่งตัวมาปฏิบัติงานที่โลกมนุษย์พร้อมกับลูเคียเสมอ โดยหัวหน้าหน่วยของเขา คือ คุจิกิ เบียคุยะ โดยเร็นจิมีเป้าหมายที่จะโค่นเบียคุยะให้ได้
ต่อไปก็พวกที่อาศัยอยู่ที่ โลกมนุษย์
ครอบครัว คุโรซากิ
คุโรซากิ อิชชิน
Kurosaki Isshin
พ่อบ้าๆบอๆของอิจิโกะ เป็นหมอ ปกติแม้จะดูพึ่งพาไม่ค่อยได้ แต่แท้จริงแล้วเป็นอดีตยมทูตระดับหัวหน้าหน่วยที่มีฝีมือแข็งแกร่งคนหนึ่งดาบฟันวิญญาณยังไม่ปรากฏ ดูเหมือนว่าจะรู้จักกับ อิชิดะ ริวเค็น และ อุราฮาร่า คิสึเกะ เป็นอย่างดี
คุโรซากิ มาซากิ
Kusosaki Masaki
แม่ของอิจิโกะซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว โดยฝีมือของฮอลโลว์ แกรนด์ฟิชเชอร์
คุโรซากิ ยูซุ
Kurosaki Yuzu
น้องสาวของอิจิโกะ มีความสามารถในการปฐมพยาบาลได้ และเป็นคนที่ตั้งชื่อให้กอนเป็นบอสตาฟแทน เป็นแฟนตัวยงของ ดอน คันออนจิ มีพลังวิญญาณเล็กน้อย
คุโรซากิ คาริน
Kurosaki Karin
น้องสาวของอิจิโกะ มีนิสัยห้าวๆเหมือนเด็กผู้ชาย นอกจากนี้ยังมีพลังในการเตะบอลสูง และชอบหาเรื่องคนอื่น แต่จริงๆแล้วก็เป็นคนที่อ่อนโยนคนนึง มีท่าไม้ตายคือ "ชู้ตปลิดชีพ สำนักคาริน" มีพลังวิญญาณมหาศาลในระดับเดียวกับอิจิโกะจึงทำให้คารินเห็นอิจิโกะในร่างยมทูตและภายหลังก็แน่ใจว่าพี่ชายตนเป็นยมทูต
คอน หรือ ไฮโซคอนคาคุ
Con
ไอ้ตัวนี้มันไม่ใช้ครอบครัวคุโรซากิหรอกครับแต่มันอยู่ที่ห้องของอิจิโกะเป็นตัวกวนของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้เป็นเม็ตยาประจุวิญญาณที่ถูกสร้างมาจากโซลโซไซตี้
ต่อไปก็ ร้านอุราฮาระครับ
อุราฮาระ คิสึเกะ
Urahara Kisuke
ชายหนุ่มวัยกลางคนเจ้าของร้านขายของอุราฮาร่า แรกเริ่มเดิมทีเหมือนว่าเขาเป็นเพียงตัวกลางของโซลโซไซตี้ที่มาอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์เท่านั้น แต่ภายหลังเราจะได้รับทราบว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นถึงอดีตหัวหน้าหน่วยที่ 12 ของโซลโซไซตี้ ที่ถูกเนรเทศออกมาตลอดกาลเพราะสร้างโฮเคียคุขึ้นมา นอกจากนี้แล้วเขายังมีความลับอีกมากมายแต่ก็มีบางอย่างที่แน่ชัดก็คือ ฝีมือดาบของอุราฮาร่านั้นดีสมราคาหัวหน้าหน่วยเลยทีเดียว เขานั้นสนิทกับชิโฮอิน โยรุอิจิ และมีความสามารถทางด้านวิทยาการ(แบบโซลโซไซตี้)อยู่ในระดับสูง เคยรู้จักกับคุโรซากิ อิชชินกับอิชิดะ ริวเคน ผู้เป็นพ่อของอุริวมาก่อน
สึคาบิชิ เท็ตไซ
Tsukabishi Tessai
ชายวัยกลางคนผู้มีเอกลักษณ์ชอบผูกผ้ากันเปื้อนตลอดเวลา ทำงานอยู่ในร้านของคิสึเกะ มีความสามารถในการใช้วิถีมารได้หลากหลาย และคอยช่วยอุราฮาร่าในการฝึกเหล่าอิจิโกะและเพื่อนอยู่เสมอ
ในสมัยก่อน สึคาบิชิ เท็ตไซ เคยเป็นหัวหน้าหน่วยของสมาคมวิถีมาร โดยมี อุโชดะ ฮาจิเง็น(หรือฮัตช์ หนึ่งในไวเซิร์ด) เป็นรองหัวหน้าหน่วยวิถีมารอยู่ในขณะนั้น
สึมุงิยะ อุรูรุ
Tsumugiya Ururu
เด็กสาวที่ทำงานอยู่ในร้านของคิสึเกะ มักถูกจินตะแกล้งประจำ ทั้งๆที่แก่กว่าจินตะ 3 ปี อุรูรุมีความรู้สึกไวต่อฮอลโลว์สูง และสามารถต่อสู้กับยมทูตได้โดยไม่ต้องมีอาวุธ มีอาวุธประจำกายคือ ปืนใหญ่ และยังเป็นฮีโร่ในนาม "คาราคุระ พิงค์" อีกด้วย
ฮานาคาริ จินตะ
Hanakari Jinta
เด็กชายที่ชอบอู้งานในร้านของคิสึเกะ มักชอบแกล้งอุรุรุเสมอ มีท่าไม้ตายคือ จิตะโฮมรัน และเป็นฮีโร่ในนาม "คาราคุระ เรด" ร่วมกับคารินอีกด้วย
ชิโฮอิน โยรุอิจิ
Shihoin Yoruichi
หญิงสาวผู้ได้รับสมญานาม "เท็นชิ เฮย์ โซบัง" เจ้าหญิงแห่งตระกูลชิโฮอิน และ "เทพพริบตาโยรุอิจิ" เธอเป็นผู้นำตระกูลชิโฮอิน 1 ใน 4 ตระกูลขุนนางชั้นสูง และยังเป็นอดีตหัวหน้าหน่วยพิทักษ์ที่ 2 รวมถึงหน่วยลงทัณฑ์ของโซลโซไซตี้ ภายหลังถูกถอดถอนเนื่องจากช่วยอุราฮาร่า คิสึเกะหลบหนี ปัจจุบันใช้ร่างแมวสีดำเพื่ออำพรางร่างที่แท้จริง
ต่อไปก็โรงเรียนคาราคุระ
อาริซาว่า ทัตสึกิ
Arisawa Tatsuki
เพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนสมัยเด็กของอิจิโกะ และกลายเป็นเพื่อนสนิทของโอริฮิเมะสมัยมัธยมต้น มีลักษณะห้าวคล้ายเด็กผู้ชาย มีความสามารถทางการต่อสู้และวาดรูปสูง ว่ากันว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่แข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 ในญี่ปุ่นเลยทีเดียว
อาซาโนะ เคโงะ
Asano Keigo
เพื่อนของอิจิโกะที่ชอบทำตัวบ้าๆบอๆติ้งต่องไร้สาระ(พูดง่ายๆได้เลยว่าตัวป่วนอะนะ)
โคจิมะ มิซึอิโระ
Kojima Mizuiro
เด็กหนุ่มที่เป็นเพื่อนสนิทของเคโงะ(เป็นคู่หูก็ว่าได้)ชนะเคโงะทุกเรื่อง งานอดิเรกคือหลีหญิงที่โตกว่า แอบคิดว่าอิจิโกะกับลูเคียเป็นแฟนกัน ชอบใช้มือถือเป็นกิจวัตร มีความเชื่อว่าจะสามารถติดต่อโลกอีกโลกนึงได้ชอบโอริฮิเมะ นิสัยทะเล้นทะลึ่งตึงตัง ชอบทะเลาะกับทัตสึกิเป็นประจำ
โองาวะ มิจิรุ
Ogawa Michiru
สาวตัวเล็กแอบชอบอิชิดะ มักขอให้อิชิดะเย็บตุ๊กตาให้เสมอๆ
โอจิ มิซาโตะ
Ochi Misato
อาจารย์สาวใส่แว่น เป็นคนง่ายๆสบายๆ แม้นักเรียนโดดเรียนก็ยังเช็คชื่อให้ตลอด โอ้ว สุดยอดอาจารย์(อยากเรียนด้วยจัง)
ไปที่ โซลโซไซตี้
13หน่วยพิทักษ์
หัวหน้าหน่วยได้แก่
หัวหน้าหน่วยที่1 ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเงคุนิ
หัวหน้าหน่วยที่ 1 และเป็นหัวหน้าใหญ่ผู้ควบคุม 13 หน่วยพิทักษ์ในเวลาเดียวกัน คำปลดปล่อยขั้นต้นของดาบฟันวิญญาณคือ "จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน ริวจินจักกะ" (วิถีเพลิงชำระ) โดยจะมีความสามารถเปลี่ยนดาบเป็นพลังไฟความร้อนสูง เป็นดาบฟันวิญญาณสายเพลิงที่เก่าแก่ และ ทรงอานุภาพมากที่สุดในโซลโซไซตี้
หัวหน้าหน่วยที่ 2 ซุยฟง
หัวหน้าหน่วยที่ 2 แห่ง "13 หน่วยพิทักษ์" และยังควบตำแหน่งผู้บัญชาการของ "หน่วยปราบปราม" แห่ง "หน่วยลับ" ในอดีตเคยเป็นลูกน้องของ ชิโฮอิน โยรุอิจิ เมื่อที่โยรุอิจิยังเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 2 ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ "ซึซึเมะบาจิ (ตัวต่อ)" คำปลดปล่อยดาบคือ "จงไล่ล่าเสียบสังหาร" มีท่าดาบคือ "โฮมงกะ (บุปผาลายผึ้ง)" ซึ่งสามารถสร้างตรา ได้ที่ตำแหน่งของศัตรูที่ถูกซึซึเมะบาจิฟัน และถ้าฟันจุดเดิมซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ก็จะทำให้ศัตรูตายในทันที ปลอดปล่อยสวัสดิกะคือ "จาคุโฮไรโคเบ็น(คฑาตัวต่อสายฟ้า)" ซึ่งดูแล้วคล้ายเข็มเล่มโตมากกว่าจะเป็นดาบ ส่วนของดาบที่ติดกับแขนและไหล่นั้นขึ้นรูปเป็นลักษณะคล้ายโล่หรือเกราะ สำหรับบังหน้า ซึ่งเจ้าตัวนั้นก็ไม่ค่อยจะชอบปลดปล่อยสวัสดิกะของตัวเองซักเท่าไหร่เพราะปลดปล่อยสวัสดิกะนี่น่ะมันค้านกับความภาคภูมิใจในฐานะนักลอบสังหารอย่างที่สุดเลย ทั้งขนาดที่ใหญ่โตจนเก็บซ่อนไม่ได้ ทั้งน้ำหนักที่มากเกินกว่าจะใช้พลางเคลื่อนไหวรวดเร็วไปพลาง มันโดดเด่นจนเกินกว่าจะเรียกว่า 'ลอบสังหาร' ได้
อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 3 อิชิมารุ งิน
อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 3 และอดีตรองหัวหน้าหน่วยที่ 5 ในอดีต เป็นชายตาตี่ขี้เล่นยิ้มตลอด สนิทกับรันงิคุในฐานะเพื่อนสมัยเด็ก อตีดเป็นรองหัวหน้าของไอเซ็น และปัจจุบันได้เข้าร่วมกับไอเซ็น ดาบฟันวิญญาณของเขาคือ "ชินโซ (หอกเทวะ)" ซึ่งตามปกติจะเป็นดาบสั้นแต่เมื่อเขาปลดปล่อยดาบขั้นต้นแล้วจะตัวดาบจะพุ่งเข้าหาศัตรูอย่างรวดเร็วราวกับยิงออกไป จึงเหมาะสมกับคำปลดปล่อยของเขาที่ "จงพุ่งสังหาร" ยิ่งนัก เป็นที่น่าสังเกตคือ
เวลาปลดปล่อยดาบ งินจะลืมตาทุกครั้ง ทั้งที่ปกติแล้วจะหลับตาอยู่เสมอ
หัวหน้าหน่วยที่ 4 อุโนฮานะ เร็ตสึ
หัวหน้าหน่วยที่ 4 ซึ่งเป็นหน่วยรักษาพยาบาล เธอเป็นหัวหน้าที่สงบเรียบร้อยและมากไปด้วยความสามารถ (แต่หากเธอจะโหดเมื่อไหร่ก็สามารถข่มได้แม้กระทั่งหน่วย 11) ดาบของเธอมีชื่อว่า "มินาซึกิ" ถึงแม้ว่าจะไม่มีรายละเอียดใดๆมากนักแต่เมื่อเธอปลดปล่อยดาบขั้นต้น ดาบจะแปลงกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่คล้ายปลากระเบนยักษ์ที่สามารถบินได้ และสามารถรักษาบาดแผลของคนอื่นได้โดยการกลืนคนผู้นั้นเข้าไปในท้อง
อดีตหัวหน้าหน่วย 5 ไอเซ็น โซซึเกะ
อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 5 ดาบของเขาชื่อ"เคียวขะซุยเงสึ" (กระจก บุปผา จันทรา วารี) ซึ่งมีพลังในการสะกดโดยสมบูรณ์ เขาได้ใช้พลังของดาบสะกดให้เห็นว่าตนถูกฆ่าตาย เขาเป็นตัวการที่แท้จริงของเหตุการณ์บุก โซลโซไซตี้ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทุกอย่าง แท้จริงแล้วเป้าหมายของเขาคือ "โฮเคียคุ" ที่ซ่อนอยู่ภายในตัวของคุจิกิ ลูเคีย เขาเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ฮอว์โลว์กลายเป็นอารันคาร์ได้โดยใช้โฮเคียคุ ปัจจุบันเป็นหัวหน้าของเหล่าอารันคาร์
ในอดีตเขาเคยเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 5 มาก่อน ขณะนั้นฮิราโกะเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 5 อยู่ โดยไอเซ็นสงสัยในตัวของคิสึเกะมากที่สุด
หัวหน้าหน่วยที่ 6 คุจิกิ เบียคุยะ
หัวหน้าหน่วยที่ 6 เป็นหัวหน้าตระกูล "คุจิกิ" 1 ใน 4 ตระกูลขุนนางชั้นสูง และว่ากันว่าเบียคุยะนั้นมีฝีมือเก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์ตระกูลคุจิกิอันยาวนาน ดาบฟันวิญญาณของเขาคือ "เซมบง ซากุระ(ซากุระพันกลีบ)" มีคำปลดปล่อยขั้นต้นคือ "จงโปรยปราย" เมื่อปลดปล่อยขั้นต้นแล้วใบดาบของดาบจะหายไปกลายเป็นใบมีดเล็กๆนับพันที่สามารถฟันศัตรูให้เป็นชิ้นๆได้อย่างรวดเร็ว และแสงของใบมีดนี้จะเปล่งประกายระยิบระยับราวกับกลีบซากุระ ส่วนชื่อของป